สติ๊กเกอร์กระดาษหลังฟ้า
สติ๊กเกอร์ดวงเปล่า กระดาษหลังฟ้า เป็นสติ๊กเกอร์ดวงเปล่าซึ่งมีให้เลือก 2 แบบ
- Thermal Transfer (TT) ซึ่ง ใช้คู่กับหมึกริบบอน wax หรือ Wax Resin
- Direct Thermal (DT) ซึ่ง ไม่ต้องใช้หมึกริบบอน
สติ๊กเกอร์แบบ Thermal Transfer คือ เมื่อความร้อนจากหัวพิมพ์ถ่ายโอนไปยังริบบอน วัสดุหรือหมึกบนริบบอนจะย้ายไปติดยังสติ๊กเกอร์บาร์โค้ด(Barcode label)การพิมพ์แบบโอนถ่ายความร้อนผ่านผ้าหมึกยังลดแรงเสียดทานของหัวพิมพ์กับสติ๊กเกอร์บาร์โค้ด เนื่องจากหัวพิมพ์ไม่ต้องสัมผัสกับเนื้อสติ๊กเกอร์โดยตรงจึงช่วยยืดอายุของหัวพิมพ์ การพิมพ์แบบใช้ริบบอน ยังสามารถเลือกใช้ริบบอน และสติ๊กเกอร์บาร์โค้ดหรือลาเบล(Barcode Label) ได้หลากหลายชนิดอีกด้วย
สติ๊กเกอร์แบบ Direct Thermal การพิมพ์แบบใช้ความร้อนโดยตรง คือการพิมพ์สติ๊กเกอร์ลาเบลแบบหัวสัมผัสกับผิวหน้ากระดาษสติ๊กเกอร์โดยตรง ไม่ต้องใช้ริบบอน โดยผิวหน้าของสติ๊กเกอร์ จะเคลือบสารเคมี เมื่อโดนความร้อนจะเปลี่ยนเป็นสีดำ เพราะเหตุนี้จึงไม่จำเป็นต้องใช้ริบบอน วิธีการพิมพ์แบบนี้อาจดูเหมือนจะประหยัดเพราะไม่จำเป็นต้องซื้อริบบอน แต่วิธีการแบบนี้จะส่งผลให้หัวพิมพ์เสียเร็วกว่าการพิมพ์แบบถ่ายโอนความร้อนผ่านริบบอน เนื่องจากหัวพิมพ์ต้องสัมผัสกับผิวเนื้อกระดาษโดยตรง ผิวเนื้อกระดาษที่หยาบจะทำให้หัวพิมพ์เสียเร็วขึ้น ข้อเสียในการพิมพ์ Direct Thermal ก็คือว่าสติ๊กเกอร์บาร์โค้ดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองตลอดเวลาและงานพิมพ์จะจางหายไปสีเทาจาง ๆ ฉลากที่พิมพ์แล้วมีอายุประมาณ 6 เดือน
คุณลักษณะเด่น
- สติ๊กเกอร์สำหรับติดสินค้า, รายละเอียดสินค้า , การทำสติ๊กเกอร์ สคบ. , การทำสติ๊กเกอร์ติดข้อมูลการส่งของ (ผู้รับ-ผู้ส่ง) , การติดเครื่องหมายการรับประกัน , การติดยี่ห้อสินค้า , การติดราคา , การพิมพ์ฉลากสินค้า ฯลฯ
คุณประโยชน์
- ใช้เป็นป้ายเพื่อแสดงข้อมูลสินค้า ซึ่งมีความเป็นสากล และช่วยให้เกิดการดำเนินการอย่างมีคุณภาพ
- ใช้ในการจัดหมวดหมู่สินค้า และการนับสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สติกเกอร์บาร์โค้ดสามารถใช้กำกับสินค้าแต่ละชนิด เพื่อการจัดการสินค้าได้อย่างยอดเยี่ยม
- ช่วยลดการใช้งานพนักงานได้หลายส่วน เนื่องจากระบบบาร์โค้ดสามารถประมวลผล จัดการข้อมูลได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ต้องใช้พนักงานในการนับสต็อกจำนวนมาก
- ช่วยให้เกิดความรวดเร็วในการจัดการสินค้า
- ช่วยประชาสัมพันธ์ธุรกิจของคุณได้ ในกรณีที่คุณใส่โลโก้ลงบนบาร์โค้ด
- ทำให้เกิดการขายหน้าร้านที่มีประสิทธิภาพ คิดเงินลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
- ลดเวลาในการดำเนินการทางธุรกิจลงได้มหาศาล เกิดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพที่สุด
- ลดความผิดพลาดในการจัดการข้อมูลสินค้า
- สร้างความเป็นสากล แสดงถึงความเป็นธุรกิจชั้นนำ และต่อยอดไปสู่ตลาดโลกได้ง่าย