1. เครื่องพิมพ์แบบกระทบ (impact printers)
- เครื่องพิมพ์แบบจุด (dot-matrix prints) เครื่องพิมพ์แบบจุดจะมีจำนวนหัวเข็มที่แตกต่างออกไป
- ราคาไม่สูง
- คุณภาพของงานพิมพ์ไม่ละเอียดมากนัก
- เสียงกระทบของหัวเข็มที่ค่อนข้างดัง
- นิยมใช้กับงานที่มีการพิมพ์แบบสำเนา เช่น ตั๋วเครื่องบิน
- เครื่องพิมพ์ฉีดหมึก (ink-jet printers)
- ฉีดหยดน้ำหมึกเล็กๆ ด้วยความเร็วสูงไปบนผิวหน้าของกระดาษ
- คุณภาพงานพิมพ์สูงและสามารถพิมพ์เป็นสีต่างๆ
- เสียงกระทบของหัวเข็มที่ค่อนข้างดัง
- นิยมใช้กับงานที่มีการพิมพ์แบบสำเนา เช่น ตั๋วเครื่องบิน
- เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printers)
- ใช้แสงเลเซอร์สร้างประจุไฟฟ้า และใช้ ผงหมึกสร้างภาพ
- คุณภาพงานพิมพ์สูงและสามารถพิมพ์เป็นสีต่างๆ
- ขณะพิมพ์เสียงจะเงียบกว่าเครื่องพิมพ์แบบกระทบ
- ราคาสูงกว่าเครื่องพิมพ์ฉีดหมึก
- เครื่องพิมพ์ความร้อน (thermal printers) แบ่งได้ดังนี้ รุ่นเล็ก, รุ่นกลาง, รุ่นใหญ่, รุ่นใช้งาน 24 ชั่วโมง
เครื่องพิมพ์ความร้อน (thermal and thermal transfer printers) รุ่นเล็ก
- ลักษณะการทำงานจะเป็นการทำงานแบบสั่งทีละครั้ง เช่น พิมพ์งานซ่อม
- สามารถใช้ได้ทั้ง Direct Thermal หรือ Thermal Transfer
- นิยมใช้ในธุรกิจตามร้านค้า เช่น ซูเปอร์มาเก็ต
- ขนาดกระทัดรัดสามารถพกพาได้สะดวก
- ความเร็วในการพิมพ์ประมาณ 4 นิ้ว/วินาที
เครื่องพิมพ์ความร้อน (thermal and thermal transfer printers) รุ่นกลาง
- ลักษณะการทำงาน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- สามารถใช้ได้ทั้ง Direct Thermal หรือ Thermal Transfer
- นิยมใช้ในอุตสาหกรรมขนาดกลาง
- ความเร็วในการพิมพ์ประมาณ 6 นิ้ว/วินาที
เครื่องพิมพ์ความร้อน (thermal and thermal transfer printers) รุ่นใหญ่
- ลักษณะการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน
- นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
- ตัวเครื่องเป็นโลหะ ทนทานต่อการใช้งานหนักได้ดี
- ไม่จำกัดความยาวของ label ในการพิมพ์
- หัวพิมพ์มีความกว้างให้เลือกหลายขนาด
- สามารถพิมพ์งานที่ต้องการความคมชัดได้ดีกว่าเครื่องรุ่นเ