คุณสงสัยมั้ยว่า...อะไรคือความแตกต่างระหว่าง เครื่องอ่านบาร์โค้ด 1D และ 2D ในบทความนี้เราจะมาอธิบายความแตกต่างเพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อของคุณ
- เครื่องอ่านบาร์โค้ด 1D
เป็นเครื่องอ่านบาร์โค้ด ที่นิยมที่สุดในตลาด เครื่องสแกนบาร์โค้ด 1D จะออกเป็นรูปแบบเลเซอร์สแกนหรือแบบภาพถ่ายเพื่อสแกนบาร์โค้ด 1D ภายในระยะการสแกนสูงสุดที่ 24 นิ้ว เครื่องสแกนบาร์โค้ด 1D มักจะมีรุ่นที่มีสายหรือไร้สาย และมาเป็นหลายรูปแบบเช่นแบบถือหรือตั้งโต๊ะ
เนื่องจากสแกนเนอร์ 1D ถูก จำกัดโดยสแกนได้แค่บาร์โค้ด 1D เหตุนี้จึงจำกัด จำนวนและความหลากหลายของข้อมูลที่เราสามารถถอดรหัสได้ โดยธรรมชาติของมัน บาร์โค้ด 1D จะถูกจำกัดให้อยู่ในรูปแบบเฉพาะข้อมูลตัวเลขและตัวอักษร ซึ่งเป็นเพราะการออกแบบ 1มิติที่มาในรูปแบบของการจัดกลุ่มเส้นแนวตั้งที่แตกต่างกันไปในความหนา นอกจากนี้ระบบบาร์โค้ด 1D ยังต้องใช้ฐานข้อมูลภายนอกเพื่อที่จะถอดรหัส
- เครื่องอ่านบาร์โค้ด 2D
โดยต่างจากเครื่องสแกนบาร์โค้ด 1D สแกนเนอร์ 2D จะได้เปรียบในการสแกนแบบรอบทิศทางจากระยะทางได้มากกว่า 36 นิ้ว และสามารถถอดรหัสบาร์โค้ดที่ไม่ชัดเจนหรือมีตำหนิ นอกจากนี้เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบ 2D ยังสามารถถอดรหัสบาร์โค้ดได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าสแกนเนอร์ 1D
เนื่องจากเครื่องสแกนบาร์โค้ด 2D สามารถสแกนบาร์โค้ดทั้ง 1D และ 2D ได้ สแกนเนอร์ 2D จะมีผลประโยชน์เพิ่มเติมที่มาพร้อมกับระบบบาร์โค้ด 2D บาร์โค้ด 2D จะมาในรูปแบบของลวดลายเรขาคณิตเช่นจุด หกเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม ดังนั้นข้อมูลจะถูก encode แบบสองมิติ โดยเป็นทั้งแนวตั้งและแนวนอน เนื่องจากการออกแบบของบาร์โค้ด 2D เป็นดังนี้ บาร์โค้ด 2D สามารถเก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมากกว่าและในหลากหลายรูปแบบเช่น เว็บไซต์ เสียง และภาพ นอกจากนี้การมีเครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบ 2D หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลภายนอกเพื่อที่จะใช้งาน
การใช้แบบทั่วไป
เนื่องจากเครื่องสแกนบาร์โค้ดแต่ละประเภทมีชุดคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เครื่องสแกนบาร์โค้ด 2 แบบนี้จึงมักใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ด้วยการจัดเก็บข้อมูลที่จำกัด
- บาร์โค้ด 1D มักใช้ในการระบุรายการที่มีข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ดังนั้นเครื่องสแกนบาร์โค้ด 1D มักใช้ในธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง เพื่อสแกนราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง
- ในส่วนมุมมองด้านการใช้งานของเครื่องอ่านบาร์โค้ด 2D สแกนเนอร์ประเภทนี้มักใช้ในธุรกิจการผลิตหรือซัพพลายเชน ในขณะที่เครื่องอ่านบาร์โค้ด 2D สามารถสแกนบาร์โค้ด 2D ซึ่งเก็บข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้จำนวนมากกว่า เครื่องอ่านบาร์โค้ด 2D สามารถถอดรหัสข้อมูลผลิตภัณฑ์ในจำนวนมากได้อย่างง่ายดายในขณะที่ผลิตภัณฑ์เคลื่อนไปตามสายพานในโรงงาน นอกจากนี้เครื่องอ่านบาร์โค้ด 2D ก็เป็นที่ใช้กันทั่วไปในอุตสาหกรรมยาเพราะว่า บาร์โค้ด 2Dจะเหมาะที่สุดสำหรับบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ยาส่วนใหญ่ที่มีพื้นที่จำกัด
ประโยชน์ของเทคโนโลยีบาร์โค้ด
- รวดเร็วและแม่นยำในการเก็บข้อมูล เทคโนโลยีบาร์โค้ดทำให้การเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างอัตโนมัติ การอ่านข้อมูลโดยเครื่องอ่านบาร์โค้ดทำให้มีความแม่นยำ จากการศึกษาพบว่า ข้อผิดพลาดมีเพียงหนึ่งในสามล้านครั้ง
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ข้อมูลที่ได้รับจากเครื่องอ่านบาร์โค้ดสามารถส่งต่อให้กับระบบการทำงาน เพื่อให้กระบวนการทำงานสามารถดำเนินการได้อย่างอัตโนมัติ เช่นระบบเข้า-ออกสำนักงานของพนักงาน
- ลดค่าใช้จ่ายในการทำงาน การเก็บข้อมูลด้วยเทคโนโลยีบาร์โค้ดทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บข้อมูล เนื่องจาการเก็บข้อมูลที่ผิดพลาด เป็นต้น
ข้อจำกัดของเทคโนโลยีบาร์โค้ด
- เสียหายง่าย แถบบาร์โค้ดเสียหายได้ง่าย เพียงแค่มีรอยเปื้อนสกปรก แถบสี หรือสีจางไปเมื่อถูกแสงแดด หรือความชื้น
- เครื่องอ่านบาร์โค้ดมีข้อจำกัดในการทำงาน เมื่อนำเครื่องอ่านบาร์โค้ดไปใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น คลื่นแสงที่ใช้ในการอ่านจะถูกหักเหง่าย เมื่อแถบบาร์โค้ดมีการเปียกชื้น ด้วยสาเหตุดังกล่าวทำให้การอ่านข้อมูลในแถบบาร์โค้ดผิดพลาดได้
- ขณะการอ่านแถบบาร์โค้ด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเห็นแถบบาร์โค้ด หากแถบบาร์โค้ดถูกปิดบัง ทำให้ไม่สามารถที่จะอ่านข้อมูลได้
- ความเร็ว เครื่องอ่านบาร์โค้ดไม่สามารถที่จะอ่านแถบบาร์โค้ดที่เคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว ดังนั้นหากแถบบาร์โค้ดติดอยู่บนวัตถุที่เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว จะมีผลทำให้ความแม่นยำในการอ่านต่ำลง
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก cps