เลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดยังไง?
โดยปกติเทคโนโลยีบาร์โค้ดมีเป้าหมายเพื่อกำหนดความถูกต้องชัดเจน ให้ความเร็ว และมีคุณภาพของการทำงาน สามารถบันทึกข้อมูลจำนวนมากในพื้นที่จำกัด อีกทั้งยังช่วยให้คุณประโยชน์ในทางการลดทุน ลดช่วงเวลาการทำงาน สามารถใช้งานแพร่หลายแทบจะครอบคลุมในด้านธุรกิจ อุตสาหกรรม กิจการค้าปลีก สุขภาพ การเรียน การขนส่งและก็อื่นๆ
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากระบบบาร์โค้ด มีอะไรบ้าง ?
- ใช้เป็นป้ายเพื่อแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีความเป็นสากล แล้วก็ช่วยทำให้มีการจัดการอย่างมีคุณภาพ
- ใช้เพื่อสำหรับการแบ่งประเภทผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการนับสต็อกได้อย่างมีคุณภาพ สติกเกอร์บาร์โค้ดสามารถใช้ดูแลผลิตภัณฑ์แต่ละจำพวก เพื่อการจัดการผลิตภัณฑ์ได้อย่างดียิ่ง
- ช่วยลดการใช้แรงงานบุคลากรได้หลายส่วน เนื่องมาจากระบบบาร์โค้ดสามารถประเมินผล จัดแจงข้อมูลได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องใช้บุคลากรสำหรับการนับสต็อกจำนวนไม่น้อย
- ช่วยทำให้กำเนิดความรวดเร็วสำหรับเพื่อการจัดแจงผลิตภัณฑ์
- ช่วยโฆษณาธุรกิจของคุณได้ ในเรื่องที่คุณใส่โลโก้ลงบนบาร์โค้ด
- ช่วยให้เกิดวิธีขายหน้าร้านค้าที่มีคุณภาพ เก็บเงินลูกค้าได้อย่างเร็ว
- ลดเวลาสำหรับการดำเนินงานทางธุรกิจลงได้มากมายก่ายกอง มีการบริหารจัดแจงที่มีคุณภาพที่สุด
- ลดความบกพร่องสำหรับในการจัดแจงข้อมูลผลิตภัณฑ์
- สร้างความเป็นสากล แสดงถึงความเป็นธุรกิจชั้นหนึ่ง แล้วก็ต่อยอดไปสู่ตลาดโลกได้ง่าย
- เมื่อระบบบาร์โค้ดมีความหมายต่อการปฏิบัติงานทางธุรกิจ แล้วก็โรงงานอุตสาหกรรมอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว การเลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด ก็เลยจำต้องเลือกอย่างใส่ใจ แล้วก็ให้กำเนิดคุณประโยชน์สูงสุด เพื่อคุ้มต่อการลงทุนในธุรกิจรวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมของคุณเยอะที่สุด
ในปัจจุบัน เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด มีการทำงานอยู่ 2 ระบบ ได้แก่ ระบบ Thermal Transfer และระบบ Direct Thermal
- Thermal Transfer - ระบบพิมพ์ผ่านผ้าหมึก ใช้ระบบหมึกในการพิมพ์ โดยใช้ความร้อน ซึ่งความละเอียดของงานนั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดของหมึกที่เลือกใช้ ข้อดีของระบบ Thermal Transfer คือ มีความคงทน อยู่ได้นาน สีไม่ซีด ข้อเสียคือ เครื่องพิมพ์แบบนี้จำเป็นจะต้องคอยเปลี่ยน ผ้าหมึกบาร์โค้ด เมื่อใช้จนหมดแล้ว
- Direct T้hermal - ระบบพิมพ์ด้วยความร้อน จะเป็นการใช้ความร้อนทำปฏิกิริยากับเคมีบนตัวสติ๊กเกอร์โดยตรงเพื่อให้เกิดตัวหนังสือ แต่เมื่อเวลาผ่านไปข้อมูลจะเลือนหายไป ต่างกับแบบที่ใช้หมึดเป็นตัวกลาง ที่ข้อมูลจะอยู่ได้นานกว่า
การเลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดให้ก็คุ้มค่า เลือกยังไงดี ?
- เลือกเครื่องที่แข็งแรงทนทาน
ควรจะเลือกเครื่องที่มีความแข็งแรง แข็งแรง สร้างจากวัสดุที่มีคุณภาพ ตัวเครื่องแข็งแรง ซึ่งจะช่วยทำให้ใช้งานได้อย่างคุ้มเยอะที่สุด และก็ใช้ได้นาน ไม่พังง่าย สำหรับในการเลือก บางทีอาจทดลองสัมผัสตัวเครื่องก่อน ที่จะตัดสินใจซื้อ - เลือกเครื่องที่มี 2 ระบบ ( Direct Thermal & Thermal Transfer )
หากเลือกเครื่องพิมพ์ 2 ระบบ ซึ่งสามารถใช้พิมพ์ได้ทั้ง Direct Thermal & Thermal Transfer ทำให้สามารถเปลี่ยนโหมดในการพิมพ์ แทนที่จะต้องซื้อเครื่องใหม่ - เลือกเครื่องที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน
ควรเลือกเครื่องพิมพ์ที่ทั้งรองรับริบบอนได้ยาว เพื่อใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องค่อยกังวลเรื่องหมึกหมด เพียงเท่านี้ ก็ช่วยลดเวลาสำหรับการทำงานลงได้มาก - เลือกเครื่องที่รองรับ Wifi รวมทั้ง Bluetooth
ควรจะเลือกเครื่องพิมพ์ลาเบล ที่สามารถรองรับได้อีกทั้ง Wifi และ Bluetooth ซึ่งเป็นฟังก์ชันของการใช้งานเครื่องที่ทันสมัย รวดเร็ว - รองรับการพิมพ์บาร์โค้ด 2 มิติ
เลือกเครื่องพิมพ์ ที่สามารถพิมพ์บาร์โค้ดแบบ 2 มิติได้ด้วย ซึ่งจะใช้งานได้ครอบคลุมมากกว่า - เลือกเครื่องที่มีระบบตัดอัตโนมัติ
การเลือกเครื่องที่มีระบบตัดอัตโนมัติจะช่วยทำให้การทำงานราบรื่นและก็สบายเร็วทันใจขึ้น นอกเหนือจากนั้นงานที่ได้ยังมีความเรียบร้อย แล้วก็ลดความทรุดโทรมจากการตัด หรือการดึงของบุคลากรได้ ทำให้การทำงานมีคุณภาพ - เลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพ
สิ่งจำเป็นอีกประการหนึ่งเป็นควรจะเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพ จากผู้แทนจำหน่ายที่มีคุณภาพ มีความรู้และความเข้าใจรวมทั้งความชำนาญในสินค้า ซึ่งจะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าได้เครื่องที่มีคุณภาพดี ใช้งานได้ทน ไม่เกิดปัญหา และมีบริการหลังการขาย ซ่อมแซมด้วยจะดีมาก
สรุปคือ
- การเลือกใช้งานควรให้เหมาะสมกับความต้องการและชนิดงาน หากต้องการให้มีความคงทนสูงก็ควรเลือกระบบการพิมพ์แบบ Thermal Transfer แต่ถ้าต้องการความเร็วและปริมาณที่มากๆ ก็ควรเลือกแบบ direct thermal
- ความละเอียดในการพิมพ์ ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดงาน ถ้าหากต้องการฉลากที่ใหญ่ มองเห็นได้ชัดก็ใช้ความละเอียดในการพิมพ์ที่ 203 Dpi ก็ได้ แต่ถ้าหากต้องการขนาดเล็กๆ ก็ควรเลอืกใช้เครื่องพิมพ์รุ่นที่มีความละเอียดสูงยิ่งขึ้นเพื่อความคมชัดของรายละเอียด
- ขนาดของสติ๊กเกอร์ เครื่องพิมพ์แต่ละรุ่นนั้นจะรองรับขนาดได้แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนทำการซื้อควรทำการตรวจสอบก่อนว่าเครื่องพิมพ์รองรับขนาดที่เราต้องการหรือไม่